เป็นอีกเกมที่ประเทศฝรั่งเศสกลับจากที่ตามหลังแล้วกลับมาแซงชนะ ผงาดคว้าชัยชนะยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก ได้สำเร็จ
LIVE UPDATE ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก : สเปน – ประเทศฝรั่งเศส
ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก 2020-2021 รอบชิงชนะเลิศ ที่สนามซาน ซีโร ในเมืองมิลาน ประเทศอิตาลี เป็นการเจอกันระหว่าง สเปน ดวลกับ ประเทศฝรั่งเศส
หฝ่าส์ เอ็นริเก้ กนซือของสเปน เลือกจัดกองทัพมาในระบบ 4-3-3 ด้วยการใช้สามประสานแนวรุกเป็น เฟร์ราน โคนร์เรส, ขว้างโบล ซาราเบีย และก็ มิเกล โอยาร์ซาบัล
ด้านประเทศฝรั่งเศสของ ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ วางหมากมาในแผน 3-4-1-2 โดยใช้ อองตวน กรีซมันน์ ทำเกมรุกร่วมกับคู่แผงหน้าอย่าง ติดอยู่ขอบ เบนเซมา และก็ คีลิจนกระทั่ง เอ็มบัปกระเป๋า
เกมในตอน 45 นาทีแรก ทั้งคู่ทีมยังเกือบจะไม่มีโอกาสลุ้นทำประตูแบบแจ่มแจ้งให้มองเห็นกันเลย โดยที่ดินฝั่งของประเทศฝรั่งเศสนั้นยังจำเป็นต้องเสียกองหลังตัวเก่งอย่าง ราฟาแอล วาราน ซึ่งเจ็บกล้ามเนื้อขา จนกระทั่งจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงเอา ดาโยต์ อูขว้างเมกาโน ลงมาแทน ในนาทีที่ 43 อีกด้วย ก่อนที่จะจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์ที่ยังเท่ากันอยู่ 0-0
ช่วงหลังกลายเป็นสเปนมาได้ประตูขึ้นนำ ในนาทีที่ 64 จากจังหวะที่ เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ วางบอลยาวให้ มิเกล โอยาร์ซาบัล แทรกเอาชนะตัวตามติดอย่าง ดาโยต์ อูขว้างเมกาโน ก่อนที่จะยิงด้วยซ้ายยัดเข้าเสาไกลโดยเด็ดขาด ส่งให้กองทัพวัวกระทิงดุออกนำ 1-0
แต่ว่าต่อมาเพียงแต่นาทีที่ 66 ประเทศฝรั่งเศสก็มาตามตีเสมอได้แบบฉับไว จากจังหวะที่ คีลิจนกระทั่ง เอ็มบัปกระเป๋า ไหลบอลให้ ติดอยู่ขอบ เบนเซมา ได้ปั่นโค้งด้วยขวาโค้งเสียบสามเหลี่ยมอย่างสวยงาม ทำให้สกอร์ขยับมาเท่ากันที่ 1-1
ช่วงท้ายเกมนาทีที่ 80 ประเทศฝรั่งเศสมาได้ประตูกลับขึ้นนำ จากจังหวะที่ เตโอ แอร์กน็องเดซ ส่งบอลแฉลบการพุ่งสกัดของ เอริค การ์เซีย เลยไปถึง คีลิจนกระทั่ง เอ็มบัปกระเป๋า ได้หลุดยิงด้วยซ้ายตุงตาข่าย ซึ่งผู้ตัดสินเช็ค VAR แล้วเห็นว่าไม่เป็นการล้ำหน้าอะไร ช่วยทำให้กองทัพตราไก่แซงนำ 2-1
แล้วไม่มีประตูเกิดขึ้นเพิ่มอีก ทำให้ในที่สุดจบเกมเป็นประเทศฝรั่งเศสชนะไป 2-1 ผงาดคว้าชัยชนะยูฟ่า เนชั่นส์ ลีกได้สำเร็จ
รายนามนักเตะทั้งคู่ทีม
สเปน (4-3-3) : อูไน ซิมอน; เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า, เอริค การ์เซีย, อายเมอริค ลาปอร์กต์, มาร์กอส อลอนโซ; กาบี้ (โกเก้ น.75), เซร์คิโอ บุสเก็ตส์, โรดรี้ (ขว้างโบล ฟอร์ท้องนาลส์ น.84); เฟร์ราน โคนร์เรส (มิเกล เมริโน น.84), ขว้างโบล ซาราเบีย (เยเรมี ปิโน น.61), มิเกล โอยาร์ซาบัล
สำรองไม่ได้ใช้ : ดาบิด เด เคอา, เปา โคนร์เรส, อินญิเก๋ มาร์ตำหนิเนซ, ไบรอัน กิล, แซร์จี้ โรแบร์โต้, โรเบิร์ต ซานเชซ, เซร์คิโอ เรกีลอน, เปโดร ปอร์โร
ใบเหลือง – อายเมอริค ลาปอร์กต์ น.86
ประเทศฝรั่งเศส (3-4-1-2) : อูเก๋ โยริส; ฌูลส์ คุนเด้, ราฟาแอล วาราน (ดาโยต์ อูขว้างเมกาโน น.43), เปรสแนล คิมเปมเบ้; แบ็งฌาแม็ง ขว้างวาร์ (เลโอ ดูบัวส์ น.80), ปอล ป็อกบา, อูเรเลียง ชูอาเมนี, เตโอ แอร์กน็องเดซ; อองตวน กรีซมันน์ (ฌอร์ดาน แวร์ตูร์ น.90+2); ติดอยู่ขอบ เบนเซมา, คีลิจนกระทั่ง เอ็มบัปกระเป๋า
สำรองไม่ได้ใช้ : อ็องโตนี มาร์กสิยาล, มุสซา ดิยาบี้, มัตเตโอ เกนดูซี, เบอนัวต์ กอสติล, วิสซาม เบน เยดแดร์, ลูกัส แอร์กน็องเดซ, ไมค์ เมญอง
ใบเหลือง – ปอล ป็อกบา น.46, ฌูลส์ คุนเด้ น.55, คีลิจนกระทั่ง เอ็มบัปกระเป๋า น.89