ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ เริ่มมีหวังที่จะหมด 5,001 วันสำหรับการครอบครองแชมป์มากขึ้นเรื่อยๆนับตั้งแต่ที่พวกเขาแต่ง อันโตนิโอ คอนเต้ เข้ามากุมบังเหียน แม้กระนั้น “ไก่เดือยทองคำ” ไม่ใช่ทีมที่รอแชมป์นานที่สุดในวงการลูกหนังเมืองผู้ดี
สเปอร์ส ได้แชมป์ในระดับเมเจอร์ครั้งปัจจุบันด้วยการเอาชนะ เชลซี ในรอบชิง ลีก คัพ (คาราบาว คัพ) ช่วงวันที่ 28 เดือนกุมภาพันธ์ 2008 แล้วก็นับตั้งแต่นั้นตู้โชว์ที่สนามของพวกเขาก็งดโทรฟี่แห่งเกียรติศักดิ์มายาวนานจนกว่าเดี๋ยวนี้
ที่น่าเจ็บอีกทั้งหลังจากครอบครองแชมป์ ลีก คัพ ในปี 2008 สเปอร์ส เคยสวมบทในฐานะ “พระรอง” ถึง 5 ครั้ง จนถึงทำให้พวกเขาโดนตราหน้าล้อเลียนว่าเป็น “สเปอร์ซี่” (Spursy) ซึ่งก็คือทีมที่มักจะล้มเหลวมาตลอด
พวกเขาแพ้ในเกมนัดหมายชิง ลีก คัพ ในปี 2009 แล้วก็ 2015 ก่อนจะจบชั้น 2 ตามหลัง “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดู 2016/2017
ส่วนสถานะการณ์ที่อกหักมากที่สุดของแฟนบอลคงจะหนีไม่พ้นในพ.ค. 2019 เมื่อพ่ายให้กับ ลิเวอร์พูล ในรอบชิงชนะเลิศ ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่กรุงมาดริด ประเทศสเปน จากนั้นก็แพ้ให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 0-1 ในนัดหมายชิง คาราบาว คัพ เมื่อซีซั่นที่ผ่านมา
โดยเหตุนี้การที่ทีมแต่ง คอนเต้ เข้ามาวางแท็กติก ได้สร้างภาพฝันของบรรดาสาวก “ไก่เดือยทองคำ” ว่าจะได้เห็นถ้วยมันวาววับแวววาวเข้ามาประดับในตู้โชว์ความสำเร็จของสมาพันธ์อีกครั้ง
ในเวลาที่แฟนบอลเชลซี ใช้เวลาสำหรับการรอความสำเร็จน้อยที่สุดจากบรรดาสมาพันธ์ในพรีเมียร์ลีก โดยใช้เวลาเพียงแค่ 158 วันเท่านั้นนับตั้งแต่เดี๋ยวนี้จนถึงวันที่ครอบครองแชมป์ หลังจากที่พวกเขาคว่ำ แมนฯ ซิตี้ ครอบครองแชมป์ แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อฤดูที่ผ่านมา
สำหรับ เลสเตอร์ สิตี้ รั้งอยู่ในชั้น 2 โดยใช้เวลาสำหรับการรอความสำเร็จเพียงแค่ 172 วัน หลังจากที่พวกเขาปฏิเสธ เชลซี สำหรับการคว้าดับเบิ้ลแชมป์ฟุตบอลถ้วย ด้วยการเฉือน “สิงห์บลูส์” 1-0 ครอบครองแชมป์ เอฟเอ คัพ ในพ.ค.ที่ผ่านมา
ด้านทีมของที่ปรึกษาเป๊ป กวาร์ดิโอล่า เป็นสมาพันธ์ที่ใช้เวลาสำหรับการรอแชมป์น้อยที่สุดในชั้น 3 ส่วน “ไอ้ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล กับ “ลิเวอร์พูล” ลิเวอร์พูล ติดอยู่ในชั้น 4 กับ 5 เป็นลำดับ
ส่วน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ผู้ครอบครองแชมป์ลีกสูงสุดเมืองผู้ดี 20 ยุค ใช้เวลาสำหรับการรอความสำเร็จนานพอเหมาะพอควร โดยในขณะนี้ปาเข้าไปถึง 1,624 วัน นับตั้งแต่ที่พวกเขาชนะ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม 2-0 เกมนัดหมายชิง ยูฟ่า ยูโรปา ลีก ในพ.ค. ปี 2017
ในเวลาที่ เซาธ์หมูแฮมป์ตัน, นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด แล้วก็ เบิร์นลี่ย์ มีแฟนบอลอย่างน้อย 2 เจเนอเรชั่นที่ไม่เคยได้สัมผัสความสบายสำหรับการฉลองแชมป์ แม้กระนั้นที่น่าเจ็บยิ่งกว่าก็คือบรรดาสาวกของไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน, คริสตัล พาเลซ แล้วก็วัตฟอร์ด ซึ่งพวกเขามิได้แชมป์ระดับเมเจอร์ในหน้าประวัติศาสตร์เลย
ช่วงเวลาสำหรับการรอแชมป์ของทีมในพรีเมียร์ลีก นับย้อนจากเดี๋ยวนี้ไปจนถึงครั้งปัจจุบันที่ได้แชมป์
1. เชลซี 158 วัน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
2. เลสเตอร์ 172 วัน เอฟเอ คัพ
3. แมนฯสิตี้ 176 วัน พรีเมียร์ลีก
4. อาร์เซน่อล 440 วัน เอฟเอ คัพ
5. ลิเวอร์พูล 496 วัน พรีเมียร์ลีก
6. แมนฯ ยูไนเต็ด 1,624 วัน ยูโรปา ลีก
7. สเปอร์ส 5,001 วัน ลีก คัพ
8. แอสตัน วิลล่า 9,355 วัน ลีก คัพ
9. เอฟเวอร์ตัน 9,664 วัน เอฟเอ คัพ
10. ลีดส์ 10,783 วัน แชมป์ดิวิชั่น 1 (ก่อนเปลี่ยนแปลงชื่อเป็นพรีเมียร์ลีก)
11. นอริช 13,373 วัน ลีก คัพ
12. เวสต์หมูแฮม 15,152 วัน เอฟเอ คัพ
13. วูล์ฟส์ 15,208 วัน ลีก คัพ
14. เซาธ์หมูแฮมป์ตัน 16,622 วัน เอฟเอ คัพ
15. นิวคาสเซิ่ล 19,138 วัน อินเตอร์-สิตี้ แฟร์ คัพ
16. เบิร์นลี่ย์ 22,465 วัน แชมป์ดิวิชั่น 1 (ก่อนเปลี่ยนแปลงชื่อเป็นพรีเมียร์ลีก)
17. ไบรท์ตัน, เบรนท์ฟอร์ด, คริสตัล พาเลซ แล้วก็ วัตฟอร์ด ไม่เคยมีแชมป์ระดับเมเจอร์